วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

: Embrace! ๓. Heart it pain {๑๐๐%}




: Embrace!
3.
Heart it pain


สายตาทอดมองไปยังท้องฟ้าเครื่องบินกำลังทยานสู่หมู่เมฆมากมาย ความรู้สึกในหัวใจกลับมีความกลัวมากมายเข้ามา หากแต่ใบหน้าเล็กของลูกน้อยกลับสลัดความกลัวนั้นทิ้งไปจนหมดมือเล็กจ้องมองรูปถ่ายของลูกชายตัวแสบด้วยรอยยิ้มก่อนจะหลับตาพริ้ม
รอก็แต่เวลาที่เครื่องจะจอดลงก็เท่านั้น
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงการเดินทางก็สิ้นสุดลง ประเทศที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะกลับมาอีกอิตาลี! ความเจ็บปวดที่จากมาและความรับที่ได้รับ หากแต่ความสุขกลับสร้างความเจ็บปวดจนต้องวิ่งหนีไปในที่ที่แสนไกลอีกครั้ง

ครืด ครืด
สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กร้องดังขึ้นหลังจากที่เปิดเครื่อง มองดูชื่อของผู้ที่โทรมาก่อนจะกดรับสาย
“ถึงแล้วสินะพี่ให้คนไปรอรับเราแล้วนะลูกกวางน้อย” เสียงโอเซฮุนพี่ชายที่แสนดีดังขึ้นมา แม้เค้าไม่ได้มาส่งถึงที่แต่ความห่วงใยก็ไม่เคยขาดหายไปเลยแม้แต่นิดเดียว
“ขอบคุณครับพี่ชาย”
“อย่าลืมพาลูกมาเยี่ยมพี่บ้างละ
“พูดเหมือนผมจะไม่กลับไปเกาหลีอีกแล้วแนะ หรือพี่ไม่ต้อนรับผมแล้ว” พูดจาเย้ายวนวาจาแสนน้อยใจออกไปราวกับว่าปลายสายไม่ยินดีต้อนรับจะให้น้องชายคนนี้กลับไปอีกแล้ว
“ใครบอกละ? พี่กลัวคนทางนั่นจะไม่ให้เรากลับมามากกว่า” ร่างบางขมวดคิ้วเรียวสวยนึกสงสัยในคำพูดของพี่ชายที่แสนดีนัก
“มีแต่เจอหน้ากันเค้าจะฆ่าผมมากกว่าครับพี่ฮุนแค่นี้ก่อนนะผมเจอคนของพี่แล้วครับ” เอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจก่อนจะเดินไปหาการ์ดคนหนึ่งที่เซฮุนบอกไว้
!
“ที่พี่พูดแบบนั้นออกไป ก็เพราะรู้ว่าหัวใจของนายอยู่ที่ไหนต่างหากละลู่หาน! โอเซฮุนยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะก้มหน้าลงทำงานกับกองเอกสารมากมาย สุดท้ายก็เป็นได้แค่พี่ชายที่แสนดีคอยเฝ้ามองน้องชายอยู่ไกลๆ ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่
หัวใจของเด็กน้อยก็ไม่เคยเป็นของเค้า
!!!

“คุณลุงฮะ ไหนแม่กวางน้อยของลู่ชานละฮะ” น้ำเสียงเล็กเอ่ยถาม ใบหน้ามนของลูกชายมองไปรอบๆ บ้านหลังใหญ่ที่ไม่คุ้นเคยก่อนจะทอดมองไปยังร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่ตนเรียกขานว่าคุณลุง
“แล้วคุณป๊าของลู่ชานละฮะ อยากเจอแล้ว”
“รอพบพร้อมแม่กวางน้อยนะครับ”
“เอ่! แม่กวางน้อยของลู่ชานจะมาแล้วเหรอครับ” เสียงเล็กเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงสงสัย สายตาคู่เล็กจ้องมองคุณพ่อทันที รอยยิ้มจากริมฝีปากของชายหนุ่มทำให้ลูกน้อยพลอยยิ้มไปด้วย
“อิอิ J ครับผม”
“เจ้านายครับ ตอนนี้คุณหนูมาถึงสนามบินแล้วนะครับ” เสียงของจ้าวเหวยเอ่ยขึ้น พลอยทำให้เด็กน้อยนึกสงสัยไปด้วย
“ใครคือคุณหรูครับ ชื่อแปลกจัง” ถ้าหากว่าบุคคลที่ได้รู้ว่าถูกเรียกขานแบบนี้คือแม่ของตัวเองจะคิดยังไงนะ
“เอาไว้ลุงจะแนะนำให้เจอกันนะครับ”
“ฮะ!
“จ้าวเหวยนายไปรับมาซะ!” ลุกขึ้นจากลูกน้อยที่นั่งเล่นอยู่ ก่อนจะออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิททันที
“คงไม่ทันแล้วละครับ!
“ทำไม?” เอ่ยถามอย่างสงสัยเรียวคิ้วขมวดเข้าหากัน มองใบหน้าของลูกน้องคนสนิททันที
“เดินมาโน่นแล้วครับ” ตอบคำถามเจ้านายด้วยรอยยิ้ม สายตาก็จับจ้องไปยังร่างเล็กของคุณหนูเวลาผ่านไปนานไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว หากแต่สวยขึ้นมากกว่าเดิมอีกต่างหาก
“พาลูกฉันไปเล่นข้างนอกซะ อ่อ! แล้วออกทางด้านหลังนะห้ามให้เข้ามาจนกว่าฉันจะคุยเสร็จ”
“ครับ” รับคำก่อนจะทำตามคำสั่งของเจ้านาย เดินเข้าไปหาร่างเล็กของนายน้อยก่อนจะเอ่ยเชิญชวนให้ออกไปเล่นด้านนอก ด้วยความเป็นเด็กจึงทำให้ไม่ยากเลยที่จะเดินตามออกไปอย่างว่าง่าย
“หึ! มาเร็วว่าที่คิดนะคนทรยศ!!!!!!!!

ลู่หาน
สุดท้ายผมก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าประตูรั้วขนาดใหญ่ในอาณาจักรของมาเฟียอย่าง ปาร์ค ชานยอลถอนหายใจออกมาเพื่อปลอบใจตัวเอง ความกล้าเท่านั้นที่จะสู้กับคนใจร้ายได้ ประตูถูกเปิดออกอย่างไม่ต้องพูดเอ่ยอะไรออกมาสักคำ หากแต่เสียงทักทายมากมายกลับดังขึ้น
“กลับมาแล้วเหรอครับคุณหนู”
ราวกับว่าถูกตีพิมพ์คำพูดพวกนี้ออกมาจากปากของคนๆ เดียวกันงั้นแหละ
“ครับ J” ผมเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มก่อนที่เรียวขาทั้งสองข้างจะก้าวเดินไปข้างหน้า ทุกย่างก้าวคือเสียงเต้นแรงของหัวใจ
มาถึงจนได้สินะ
ผมก้าวขาเข้าไปด้านในเรื่อยๆ แต่หัวใจกลับไม่ยอมหยุดเต้นเอาแต่ทำร้ายกันอยู่ได้ ใครว่าผมไม่กลัวละผมกลัวมากเลยทีเดียวหากแต่ผมกำลังต่อสู้กับความกลัวพวกนี้อยู่ต่างหากละ ผมอยากเจอลูกและที่ผมกลับมาที่นี่ก็เพื่อจะมารับลูกกลับเกาหลี
ผมไม่ได้อยากเจอเค้าผมรู้ว่าหัวใจตัวเองยังไม่ลืมเค้าด้วยซ้ำไปแถมยังรักมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมก็ไม่อยากเจ็บปวดอีกแล้ว
ปาร์ค ชานยอล
ผู้มีพระคุณและผู้ชายใจร้ายที่ทำให้ผมต้องเจ็บปวดทุกๆ วันที่นึกถึงเค้าและต้องเห็นว่าลูก ใบหน้าเล็กคือตัวแทนของคนเป็นพ่อราวกับว่าพิมพ์เดียวกันด้วยซ้ำไป
ผมก้าวขาเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ หัวใจไม่หยุดเต้นแต่มันกลับเต้นระรัวมากยิ่งขึ้นรูปถ่ายของผมทุกใบที่ก้าวขาเข้ามาก็จะเห็นบัดนี้มันกลับหายไปจนหมดแล้ว ไม่มีเหลือสักใบเดียว! มีเพียงรูปของเค้าเท่านั้นที่วางเรียงรายอยู่เต็มไปหมด
“คุณหนูค่ะ ท่านฝากมาเรียนว่ารออยู่ที่ห้อง”
เสียงสาวใช้เอ่ยขึ้น ผมหันไปมองหน้าเธอก่อนจะยิ้มให้หากแต่ตอนนี้ผมไม่ใช่คุณหนูของพวกเค้าอีกแล้ว
“เรียกชื่อของผมเถอะครับ ผมไม่ใช่คุณหนูของที่นี่อีกต่อไปแล้ว” ผมบอกออกไปแต่นั้นแต่สาวใช้คนนี้กลับยิ้มให้ เธอคงไม่ยอมทำตามที่ผมบอกหรอกครับ
“ไม่ได้หรอกค่ะ ถึงยังไงคนตรงหน้าของดิฉันก็ยังคงเป็นคุณหนูลู่หานคนเดิม” เธอบอกกับผมก่อนจะก้มหน้าและถอยหลังเดินออกไป มันเป็นคำตอบที่หนักแน่นเหลือเกินผมเองก็ได้แต่ยิ้มตามร่างของสาวใช้คนนั้นก่อนที่สายตาจะหันไปมองราวบันไดพร้อมกับเรียวขาที่ก้าวเดินขึ้นไป
ผมกลัวที่จะเผชิญหน้า เพราะหัวใจของผมยังไม่พร้อม
แต่ถ้าผมรอนานกว่านี้ หัวใจของผมอาจจะแย่ลงไปก็ได้! การได้พบกับเค้าอีกครั้งมันไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่มันอยู่ที่ว่าหัวใจของผมเข้มแข็งมากแค่ไหน?
บานประตูไม้ขนาดใหญ่กับหัวใจที่เต้นแรง
ก๊อก ก๊อก
ผมช่างใจอยู่นานก่อนที่จะเคาะประตูนี้ หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาผมเองก็เลือกที่จะเปิดเข้าไปทันทีเมื่อกันเพราะรับรู้ได้ว่าเจ้าของห้องคงจะรอผมอยู่เหมือนกันวินาทีแรกที่ได้เข้ามาทุกความทรงจำก็แล่นเข้ามาในสมองและฆ่าหัวใจผมไปทีละนิดจนเกือบจะหมดเลยทีเดียว
ทุกอย่างไม่เคยเปลี่ยนไป ผมเคยอยู่ยังไง เคยเห็นแบบไหนมันก็ยังคงเหมือนเดิม!!!
บานประตูค่อยๆ ปิดลงอย่างช้าๆ หากแต่ผมก็เลือกที่จะไม่ล็อคประตูก่อนจะก้าวเดินไปเรื่อยๆ ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังยืนหันหลังให้ทอดมองสายตาออกไปนอกหน้าต่างราวกับว่าภาพตรงหน้าของเค้ามันช่างน่าสนใจเหลือเกิน ผมย่างกรายเข้ามาในรังของหมาป่าที่พร้อมจะขยำเหยื่ออย่างผมได้ทุกเมื่อ
ผมกลัวแต่ผมอยากเจอลูกมากกว่า!!!

“มาแล้วเหรอ? คนทรยศ
มันน่าเจ็บปวดที่สุดกับคำพุดที่เอ่ยออกมา เค้าเรียกผมว่าคนทรยศผมไม่เคยทรยศเค้าหากแต่เค้าต่างหากที่บังคับให้ผมฆ่าลูกในตอนนั้น เค้าใจร้ายเกินไปต่างหาก!!!
“ผมไม่ใช่คนทรยศ! ในเมื่อรู้ว่าผมจะมาก็คืนลูกมาให้ผมซะ” ผมไม่คิดจะพูดจาอ้อมค้อมเลยด้วยซ้ำไปเพราะตอนนี้เราสองคนก็ต้องสู้กันซึ่งๆ หน้าอยู่แล้วนี่
“หึ!
ปาร์ค ชานยอลแสยะยิ้มด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ก่อนที่ร่างสูงตรงหน้าจะค่อยๆ หันกลับมา วินาทีแรกที่ผมเห็นสายตาของเค้าหัวใจของผมเต้นแรงเหลือเกิน เราสบตากันผมแทบอยากร้องไห้แต่กลับต้องเข้มแข็งเอาไว้ เรียวขาทั้งสองข้างเกือบไม่มีแรงด้วยซ้ำไป
สายตาเค้าน่ากลัวเกินไปแล้วนะ
คิดว่าฉันโง่สินะคิดจะหลอกมาเฟียอย่างฉันงั้นเหรอ? เด็กคนนั้นลูกของฉันใช่ไหม!
ราวกับว่าระฆังที่ถูกตีดังก้องอยู่ในสมองตลอดเวลา สามปีที่ผมหนีเค้ามากับสามปีที่เค้าเคยบอกเอาไว้ว่าจะปล่อยผมไป แต่วินาทีต่อจากนี้ชีวิตและลมหายใจกลับต้องทรมานเพราะถูกเค้ากักขังอีกครั้ง กักขังด้วยคำพูดประโยคเมื่อกี้
ผมคิดว่าจะโกหกเค้าได้ แต่คนอย่างเค้าฉลาดกว่าที่คิดไว้ซะอีก!!!
 “มะไม่ใช่!” ต่อให้ผมพยายามโกหกไปมากแค่ไหน มันก็ไม่มีทางสำเร็จ หากเค้าได้ลองตามหาผมแล้วนั้นก็หมายความว่าเค้ามั่นใจ
ผมอยากบอกเหลือเกินว่าลู่ชานไม่ใช่ลูกของเค้า แต่ผมกลับพูดไม่ออกเมื่อถูกสายตาคู่นี้จับจ้องมา เค้าก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาหาผมเรื่อยๆ
“โกหกสินะแต่ฉันจะทำให้ลูกกวางน้อยตัวนี้เลิกพยศและพูดความจริงทุกวันทุกคืน!
หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว
พยายามวิ่งหนีสุดชีวิตแต่ทำไม่ได้แล้ว เพราะเค้าเค้าคนเดียว ปาร์ค ชานยอล
ผู้มีพระคุณที่เคยกระชากชีวิตจากจุดต่ำสุดให้อยู่สูงสุดและคนที่แอบรักมาตลอด จนวันนี้เค้ากำลังดึงผมให้ต่ำลงไปอีกครั้ง
“ผมไม่ได้โกหก แต่เด็กคนนั้นตายไปแล้วผมฆ่าเค้าอย่างที่คุยต้องการไปแล้ว!

หมับ!
ร่างสูงตรงเข้ามาประชิดตัวของผมทันที เค้ากระชากผมไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ก่อนจะดันจนตัวผมล้มลงไปนอนกับเตียงก่อนที่ร่างสูงจะขึ้นมานั่งคร่อมผมเอาไว้
“คิดจะโกหกไปถึงเมื่อไหร่?”
“ถ้าอยากหลอกตัวเองก็ตามใจ แต่เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกคุณลู่ชานเป็นลูกผมคนเดียวเท่านั้น!!!!!!!
ผมเถียงเค้าสุดชีวิต สายตาที่จ้องมองก็ไม่แสดงความกลัวใดๆ เลยด้วยซ้ำไป เพราะผมมาที่นี่เพื่อสู้กับเค้าไม่ใช่วิ่งหนีเค้าอีกต่อไป
“หึ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องคืนนั้นซะละถึงฉันจะเมาแต่ก็ไม่ได้โง่จนไม่รู้ว่ามีอะไรกับใครไป! ไม่งั้นครั้งต่อไปคงไม่เกิดขึ้นหรอกนะ”
ผมอึ้งกับคำพูดของเค้าอย่างถึงที่สุด ผมกลัวว่าเรื่องนี้จะเปิดเผยออกมาแต่สุดท้ายมันก็ไม่เคยเป็นความลับสินะ เค้ารู้มาโดยตลอดว่าคืนนั้นคือผมแต่เค้ากลับไม่พูด หัวใจผมร้าวรานเหลือเกินที่ได้รับรู้ความจริงในตอนนี้
!!!
“ที่ฉันไม่พูด ก็เพราะฉันไม่อยากจะพูดแต่ในเมื่อไม่ยอมรับว่าลู่ชานเป็นลูกของฉันละก็! ฉันก็จะแย่งเค้ามา
ผมหันหน้ากลับมาสบตากับเค้าทันที ผมมองเค้าด้วยแววตาที่โกรธเกรียวหากแต่เค้ากลับมองผมด้วยแววตาที่ว่างเปล่า เค้าไม่แคร์กับคำพูดเมื่อกี้ด้วยซ้ำไป
“อย่าคิดว่าจะแย่งไปได้ง่ายๆ เพราะผมไม่ให้!!!!
“หึ! รู้สึกเหมือนว่าลูกจะอยากเจอป๊า ถ้าเค้ารู้ว่าใครคือคนๆ นั้นลูกก็คงเลือกที่จะอยู่กับฉัน!” ผมออกแรงผลักเค้าให้ออกห่างจากตัว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งจ้องมองใบหน้านี้ ผมไม่อยากร้องไห้เพราะมันแสดงออกถึงความอ่อนแอ ในเมื่อผมมาที่นี่เพื่อสู้กับเค้าผมก็ต้องเข้มแข็งและเย็นชาไว้เท่านั้นถึงจะชนะเค้าได้
……………………
“ส่วนแม่ของลูก ฉันไม่ต้องการ!
หัวใจเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ยิ่งฟังก็ยิ่งเจ็บแต่อย่าหวังว่าจะได้เห็นน้ำตาของผมอีกเลย ปาร์ค ชานยอล เพราะผมจะไม่ร้องไห้ให้คุณได้เห็นอีกแล้ว
“ในเมื่อมารับดีๆ คุณไม่ยอมให้ลูกคืน ผมก็จะสู้จนกว่าจะได้ลูกกลับเกาหลี
พูดจบผมก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียงที่นั่งอยู่ แต่แขนข้างหนึ่งกลับถูกดึงรั้งให้นอนลงบนเตียงกว้างนี้อีกครั้ง มือหนาทั้งสองข้างกดทับข้อมือผมจนรู้สึกเจ็บเหลือเกิน
“ปล่อย! และหยุดความป่าเถื่อนของคุณไปซะมันยิ่งทำให้ผมรังเกียจคุณมากขึ้น”
“หึ! รังเกียจงั้นเหรอ? ทำให้ได้จริงๆ อย่างที่พูดละเพราะฉันจะย้ำว่าใครกันแน่คือพ่อของลู่ชาน”
“ไม่ใช่คะอื้อ!
ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้มันคืออะไร แต่สัมผัสที่ได้รับกลับโหดร้ายและทรมานหัวใจกันเหลือเกินรสจูบที่ขมปี่กับสัมผัสที่โหดร้ายกำลังฆ่าผมให้ตายไปทีละน้อยจนไม่เหลืออะไรเลย หากแต่ความเจ็บปวดทั้งหมดนี้หัวใจกลับยอมรับมัน
“อื้อหยุด”
ผมแค่ร้องประท้วงออกมาได้นิดหน่อย ริมฝีปากและลมหายใจก็ถูกกลืนหายเข้าไปอีกครั้ง ผมแทบไม่มีอากาศหายใจเลยด้วยซ้ำไป
แค่ก แค่ก
เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่ได้ลมหายใจกลับคืนมาผมกลับต้องไอติดขัดกันเป็นเวลานาน สายตาของชานยอลที่จับจ้องมาช่างน่ากลัวเหลือเกิน
“ขอร้อง ยะ อย่า” ผมถอยหลังหนีสุดชีวิตเมื่อร่างสูงตรงหน้าลุกขึ้นยืนก่อนจะถอดเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ออกจนหมด ร่างกายชาวาบไปหมดทั้งตัวก่อนจะถลาเข้ามาหาผมอีกครั้ง
“ปาร์ค ชานยอลอย่า! ขอร้อง”
“สายไปแล้วคนทรยศฉันจะย้ำเตือนว่าใครกันแน่คือพ่อของลู่ชาน!
“มะไม่ใช่คุณ! ผมมันโสมมคุณยังกล้าจะแตะต้องงั้นเหรอ?”
“อย่างน้อยก่อนจะโสมม ฉันก็เคยแตะต้องมาแล้ว!
“ชานยอลขะ ขอร้อง” ผมรีบรั้งใบหน้าของเค้าเอาไว้ ร้องขอด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไม่ได้ยิน ผมไม่เคยเรียกชื่อเค้าแบบนี้และแน่นอนว่าเค้าเองก็ไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกแบบนี้เหมือนกัน
อื้อ
เค้าไม่ฟังเสียงทักท้วงของผมอีกต่อไป ร่างสูงกดทับลงมาและกดริมฝีปากจูบผมอย่างหนักหน่วงบดขยี้จนปากผมช้ำเลือดไปหมด กินคาวเลือดจางๆ กระทบเข้ากับโสตประสาทจนผมแทบไม่รับรู้อะไรอีกเลยนอกจากความเจ็บปวดพวกนี้
เค้าบดเบียดและกดจูบย้ำเตือนอยู่อย่างนั้นจนผมเจ็บไปหมดทั้งตัวและหัวใจ หากแต่ผมไม่อยากร้องไห้ไม่เลยแม้แต่นิดเดียว!!!
“ผมเกลียดคุณ”
หลังจากที่ริมฝีปากกลายเป็นอิสระผมก็พูดมันออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นไม่มีแม้แต่น้ำตาสักหยด เค้าไม่สนใจคำพูดของผมด้วยซ้ำกดจูบและขบเม้มที่ซอกคอจนเกิดรอยแดงๆ มากมาย เสื้อผ้าอาภรณ์ที่ผมใส่อยู่ก็หลุดลุ่ยออกมาจนหมดสิ้น
“ผมจะไม่มีวันให้อภัยคุณเลยปาร์ค ชานยอล!
“ฉันไม่ต้องการ!!!!!
“อื้อเจ็บ”
ปลายนิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้ามาในร่างกายพร้อมกับคำพูดของเค้า ผมเจ็บมากว่าร่างกายถูกกระทำอยู่ในตอนนี้ซะอีก เพราะคำกำลังบอกว่ารังเกียจผมมากแค่ไหน? สิ่งที่เค้าต้องการคือลูกไม่ใช่ผม
“ไหนว่ารังเกียจ ไหนบอกว่าเกลียด แต่ทำไมถึงร้องครางด้วยความชอบละใครกันแน่ที่น่ารังเกียจ!!!!!
เค้าพูดพร้อมกับขยับนิ้วเรียวสวยนั้นไปด้วย ร่างกายผมกระตุกวูบมือทั้งสองข้างกำเข้ากับผ้าปูที่นอนจนแน่น หลับตาพริ้มเพื่อปกปิดน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาแต่ในหัวใจผมมันกลับเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาเรียบร้อยแล้ว
“ปาร์ค ชานยอล คนใจร้ายอื้อ”
ผมยอมแพ้กับสัมผัสมากมายพวกนี้ แม้ปากจะบอกว่ารังเกียจมากแค่ไหนก็ตามแต่หัวใจกลับตอบรับทุกสัมผัสด้วยความเต็มใจอย่างน่าละอายเหลือเกิน
“ลู่หาน เด็กทรยศ!!!
สัมผัสสุดท้ายคือความมืดมิดในหัวใจกับร่างกายแสนกำยำที่ส่งผ่านความร้อนมากมายเข้ามาในร่างกาย สัมผัสและเสียงร้องกระเซ้าดังก้องไปทั่วทั้งห้องมันไม่ใช่แค่เสียงของผมและเป็นเสียงของพวกเรา เค้าไม่ยอมป้องกันด้วยซ้ำไปและผมก็กลัวว่าความผิดพลาดจะเกิดขึ้นมาอีกครั้ง
แรงกระแทกมากมายที่เข้ามาผมก็กระตุกเด้งตัวรับสัมผัสพวกนี้อย่างเต็มใจ ผมเจ็บแต่ผมไม่อยากร้องไห้เกมส์มากมายที่พวกเรากำลังเล่นอยู่กำลังสร้างความเจ็บปวดให้อย่างถึงที่สุด
และเกมส์นี้ก็หาจุดสิ้นสุดไม่ได้สักที

อื้อ
อ้วกกกกกกกกกกกกกกก!
ผมไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว หากแต่สัมผัสสุดท้ายที่ได้รับคือแรงกดจูบอย่างหนักหน่วงที่หน้าผากก่อนที่ดวงตาทั้งสองข้างจะหลับพริ้มลงไป ตื่นขึ้นมาอีกครั้งกับอาการปวดหัวและอ้วกอย่างหนัก ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาตอนนี้มันกี่โมงกี่ยามกันแล้ว
L

โอ้กกกกกกก อ้วกกกกกกก…     
ผมอ้วกจนหน้าตาแดงกร่ำไปหมดแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินกลับมาในห้องด้วยซ้ำไปผมไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เที่ยงจนร่างกายจะรับไม่ไหวอยู่แล้ว!
!!!
.
..

ภายใต้ห้องนอนขนาดเล็กร่างสูงของปาร์ค ชานยอลกำลังส่งยิ้มหวานให้ลูกชายตัวแสบอยู่ หลังจากทำโทษคนทรยศจบลงเค้าก็ลุกขึ้นจากเตียงกว้างก่อนจะเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำร่างบางที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่นั้น เค้าทำได้แค่มองและเดินออกมาอย่างไม่สนใจใยดีเพราะเป้าหมายที่เค้าสนใจคือเด็กน้อยตรงหน้าต่างหาก
“คุณลุงฮะ ลู่ชานได้ยินเสียงคนร้องในห้องของคุณลุงแต่อาเหวยบอกว่าคุณลุงกำลังเล่นสนุกอยู่”
วาจาช่างถากถางและสงสัยเหลือเกิน เค้ายิ้มขำกับคำถามของลูกน้อยแต่แอบคาดโทษคนที่สอนให้ลูกเค้าจดจำอะไรแบบนี้
“ครับ! สนุกมากเลยทีเดียว”
“อ่า! คราวหลังลู่ชานไปเล่นด้วยได้ไหม?” ขยับกายเข้าไปหาคนเป็นพ่อที่ตัวเองเรียกขานว่าคุณลุง เงยหน้าขึ้นสบตากันมือหนาขยี้หัวทุยเล็กเส้นผมดกดำของลูกชายอย่างรักใคร่
“เอาไว้โตกว่านี้ดีไหมครับ”
“ชิส์! คุณลุงใจร้ายอ่า”
เชิดใบหน้าใส่ทันทีก่อนจะขยับกายหนีใจร้าย! งั้นเหรอ? ทำไมคำพูดนี้วาจาแบบนี้ช่างเหมือนกันเหลือเกินนะ
ว่าลุงใจร้าย ไม่อยากเจอแม่แล้วเหรอ?” เด็กน้อยแสนงอนรีบเด้งตัวกลับมาหาคุณพ่อตัวดีทันทีหลังจากที่เชิดหน้าใสไปเมื่อครู่
“จริงเหรอฮะ! จะได้เจอแม่กวางน้อยแล้วใช่ไหม”
“ครับ! แต่เป็นพรุ่งนี้นะ
“ว๊า! แล้วคืนนี้ใครจะนอนกอดลู่ชาน” เด็กน้อยว่าด้วยวาจาออดอ้อนกอดแขนของคุณพ่อทันที ชานยอลเองก็นั่งจ้องหน้าลูกชายตัวแสบด้วยรอยยิ้ม ไม่อยากคิดหากวันใดที่ลูกรู้ว่าใครคือพ่อเด็กน้อยยังจะอยากกอดเค้าอย่างนี้ไหม
กอดปลอบลูกจนหลับไปในที่สุด สายตากลับทอดมองไปยังบานประตูในหัวกำลังคิดถึงใครอีกคนที่กำลังนอนอยู่ในห้อง เบือนหน้ากลับมามองลูกน้อยอีกครั้งกดริมฝีปากลงบนเรือนผมดกดำพร้อมทั้งดึงผ้าห่มผืนเล็กมาคลุมกาย เอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียง
“ฝันดีนะครับลูก” ลูบเรือนผมของลูกน้อยอีกครั้งก่อนจะส่งยิ้มหวานเดินออกจากห้อง
!!!
..
.

แอด
บานประตูหนาถูกเปิดออก สายตามองไปยังร่างเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาเดินเข้าไปหาก่อนจะนั่งลงข้างๆ ร่างเล็กขยับตัวไปมาพร้อมทั้งดึงผ้าห่มให้ปิดร่างจนมิดชิด ปากบวมเจ่อใบหน้าแดงกร่ำคล้ายกับคนที่โดนพิษไข้เข้าครอบงำ มือหนาเอื้อมไปแตะหน้าผากมน
ความร้อนกระทบกับหลังมือทันที เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากัน!
สองเท้าก้าวเดินหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับออกมาอีกทีพร้อมกับอ่างขนาดเล็กและผ้าเพื่อเช็ดตัวให้ร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง
“ทำไม! ฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ” ปากบ่นไม่ได้พักหากแต่มือทั้งสองข้างกลับหน้าที่คอยเช็ดตัวให้คนทรยศอยู่อย่างนั้น
!!!
“อื้อหนาว” เสียงครางเล็กเอ่ยออกมาขยับกายเข้าหาผ้าห่มผืนหนาก่อนจะซุกหน้ากับหมอนใบโต
เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ถูกหยิบออกมาจากตู้ก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ รั้งร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะสวมเสื้อให้หากแต่ร่างเล็กกลับลืมตาตื่นขึ้นมาซะก่อน
“ทะทำอะไร?” เอ่ยถามอย่างตกใจพยายามดันตัวให้ออกห่าง หากแต่ไม่มีแรงมากพอ
“ใส่เสื้อ!
“จะใส่เอง” มือเล็กพยายามจับเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เอาไว้ แต่ทว่าเรี่ยวแรงน้อยนิดกลับทำให้มือไม้สั่นไปหมด รวมไปถึงสายตาดุดันที่จับจ้องอยู่ด้วย
“อย่าเรื่องมากได้ไหม เห็นแล้วขัดหูขัดตา!” กระชากเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่เข้ามาจนร่างเล็กตามติดมาด้วย ใบหน้าสวยร้อนจัดกระทบเข้ากับแผงอกกว้างลมหายใจร้อนๆ หอบหายใจขัดกัน
“ปวดหัว” มือเล็กขยับขึ้นจับใบหน้าของตัวเอง “อะอึก ปวดหัว” ร้องไห้สะอื้นส่ายหัวไปมาเหมือนเด็ก
“รู้แล้ว! นอนพักไปก่อนละกันเดี๋ยวจะไปหายามาให้กิน”
วาจาว่าร้ายแต่จิตใจกลับนึกเป็นห่วงสองขาก้าวเดินออกจากห้องไปหายามาให้คนตัวเล็กที่นอนร้องไห้อยู่

“หาอะไรครับเจ้านาย”
“ยา!
“เอาไปทำอะไรครับ”
“เลิกถาม! แล้วไปหายาแก้ไข้มาให้หน่อย” รีบทำเสียงเข้มเพื่อกลบเกลื่อนความเป็นห่วง ลับสายตาไปจ้าวเหวยกลับแอบยิ้มขำกับท่าทางของเจ้านายตัวเอง ปากร้ายแต่ใจดี
ต่อหน้าว่าเค้าต่างๆ นาๆ แต่พอเค้าป่วยขึ้นมาก็ดูแล แบบนี้นะเหรอ? ที่ปากบอกว่าเกลียด
“นี่ครับยาแก้ปวด”
รับยาแก้ปวดมาก่อนจะเดินกลับเข้าห้องทันทีสายตาทอดมองไปยังร่างเล็กที่นอนสั่นอยู่บนเตียงหนา ลำแขนแกร่งพยุงตัวร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะป้อนยา
“ไม่กินขม!” มือเล็กพยายามปัดยานี้ทิ้งไป
“ถ้าไม่กิน ตาย!!!” สายตาเล็กพยายามจ้องมองใบหน้าหล่อแสนดุดัน เจอคำขู่นี้ไปไม่อยากกินแค่ไหนก็ต้องกิน
…………………
L
“อ้าปาก แล้วรีบกินจะได้พักผ่อนสักที”
แค่ก แค่ก
แทบอยากจะคายยาที่กินอยู่ออกจากปากทันทีแต่กลับถูกสายตาคู่นี้บังคับเอาไว้ จนต้องรีบดื่มน้ำตามแทบไม่ทัน
“ละลูกละ”
“หลับไปแล้ว!
“อยากไปหาลูก” พูดทั้งๆ ที่ดวงตาทั้งสองข้างหลับไปแล้วแท้ๆ หากแต่น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาด มันทรมานขนาดนั้นเลยเหรอ? แล้วที่ทรยศกันกล้าโกหกกัน มันไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ!!!!!!
!!!!
“ลูกฮือๆ คิดถึงลูก”
!!!!
“ชะ ชานยอลคนใจร้าย ฮือๆ ลูกลู่ชาน L
นั่งมองภาพร่างเล็กที่เอาแต่นอนร้องไห้ ด่าทอตนต่างๆ นาๆ

สุดท้ายเค้าก็กลายเป็นคนใจร้าย อีกจนได้สินะ
“พรุ่งนี้ ฉันจะยอมให้เจอลูก!!!
!!!
“ยอลใจร้ายใจร้าย”
L
“อย่าย้ำได้ไหม? ฉันรู้แล้วว่าตัวเองใจร้ายแค่ไหนและจะใจร้ายได้มากกว่านี้อีก!