: Embrace!
2.
Come back.
3 ปีต่อมา…
ภายใต้บรรยากาศแสนเหน็บหนาวร่างเล็กที่กำลังวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนานในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในโซล
ประเทศเกาหลีใต้ ดอกไม้สีขาวพลิบานด้วยความเบ่งบานรอยยิ้มเล็กๆ
จากคนที่นั่งมองด้วยความสุข สามปีแล้วสินะที่หนีเค้ามาและสามปีที่ได้พบเจอกับความสุข
พร้อมๆ กับผู้ชายที่แสนอบอุ่นอีกคน
โอ เซฮุน
ไม่มีคำว่ารังเกียจ มีแต่คำว่ายินดีจะช่วยเหลือ… จากการหนีในครั้งนั้นไม่มีหนทางที่จะไปแต่เพราะได้ช่วยชีวิตผู้ชายคนหนึ่งจากการถูกรุมทำร้ายในสถานบันเทิงที่ไทเป
คิดจะกลับไปแต่พอเจอกับเหตุการณ์ร้ายกลับทำให้เปลี่ยนใจแต่เพราะเห็นคนถูกทำร้ายอยู่จึงทำให้เรียวขาสวยเดินกลับไปช่วย…
รอยยิ้มและคำขอบคุณยังไม่จางหายไปจากหัวใจ
มารู้ตัวอีกทีก็ติดตามเค้ามาถึงประเทศเกาหลีซะแล้ว
“ท้องงั้นเหรอ? ผู้ชายเนี่ยนะ… ฉันเป็นพ่อเด็กให้เอาไหม”
มันคือความรู้สึกตื่นตันใจที่ได้ยินคำพูดนี้
หากแต่คงยอมรับความหวังดีนี้ไว้ไม่ได้จริงๆ ได้แต่ขอบคุณและปฏิเสธออกไปเท่านั้นเอง
“ขอบคุณครับ แต่เป็นพี่ชายผมได้ไหม… ผมรู้สึกว่าสิ่งนี้อบอุ่นเหลือเกิน”
รอยยิ้มเล็กๆ แต่กลับสร้างความประทับใจให้กับนักธุรกิจหนุ่มเหลือเกิน
มันคือรักแรกพบหากแต่เด็กน้อยที่ได้ช่วยชีวิตเค้าเอาไว้ดันปฏิเสธซะดื้อๆ
พี่ชายงั้นเหรอ? ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
“ต่อไปนี้พี่จะดูแลนายเอง ตอบแทนที่ช่วยชีวิตพี่… ไม่สิรวมไปถึงเด็กน้อยที่กำลังจะลืมตาออกมาดูโลก”
คำพูดมากมายยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจ… ความสุข และลูกน้อยที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนดอกไม้
‘ลู่ชาน’
ใบหน้าหวานแต่แววตากลับดุดันและร้ายกาจไม่ต่างไปจากต้นแบบเลยก็ว่าได้… ขอให้มันเป็นความลับตลอดไป
‘ป๊าครับ… วันนี้ผมได้หัวใจป๊ามาด้วย
ขอแค่นี้ผมก็สุขใจแล้ว’
พรึบ!!!
เสื้อโค้ชตัวหนาถูกทาบทับลงบนไหล่เล็กพร้อมกับรอยยิ้มของผู้มาเยือน
เจ้าของสวนดอกไม้แห่งนี้นี่เอง…
“อากาศหนาว คราวหลังอย่าใส่เสื้อบางนักสิ”
คำพูดแสนอ่อนโยนจากพี่ชายที่แสนดีอย่างโอเซฮุน รอยยิ้มเล็กๆ
ระบายบนใบหน้าหวานจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความรู้สึกมากมายที่อยากขอบคุณเค้า
“ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมกับลูกมีวันนี้….”
“อิจฉาหมอนั่นชะมัด! ทำไมถึงไม่ฉลาดเลย กล้าทิ้งคนดีๆ
อย่างลูกกวางน้อยของพี่และตัวแสบอย่างลู่ชานได้ยังไงกันนะ J”
รอยยิ้มจางหากเมื่อนึกถึงใครอีกคน
ร้าวรานเหลือเกินกับหัวใจดวงน้อยที่แสนจะเจ็บปวด… ต่อให้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนหัวใจก็ไม่เคยลืมเค้าได้เลย
“ยังรักและไม่เคยลืมสินะ”
“ผมขอโทษ L”
“ไม่เลย… หัวใจของนายมั่นคงเกินไปจนน่าเจ็บปวดนะลู่หาน”
มือหนาขยี้ลงบนเรือนผมดงดำใบหน้าแสนเศร้าทอดสายตามองผู้ชายแสนอบอุ่นที่ส่งรอยยิ้มผ่านใบหน้านี้มาให้
“ขอบคุณครับ”
“เลิกขอบคุณพี่ได้แล้ว เอาละพี่มีงานต้องทำ… รีบกลับเข้าบ้านซะนะ
อย่าปล่อยให้ลู่ชานวิ่งเล่นนานเกินไปอากาศหนาวเดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ครับ”
เอื้อนเอ่ยบทสนทนาจบลง
ร่างสูงก็เดินทอดน่องหายออกไปจากสวนดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์และร่างเล็กที่แสนบริสุทธิ์อีกคน…
ภาพถ่ายทุกใบ และการกระทำทุกอย่าง…
กำลังถูกจับตามองจากใครอีกคนในรถสวยคันหรูด้านนอกอาณาจักรแห่งนี้
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์เผยออกมาจากใบหน้าหล่อแบบฉบับมาเฟียจ้องมองภาพถ่ายของเด็กน้อยคนหนึ่งไปพร้อมๆ
กับใครอีกคนที่กล้าทรยศเค้าและโกหกทุกคำก่อนจากมา…
“3 ปีแล้วสินะ…”
เอื้อนเอ่ยออกมาสายตาทอดมองไปยังร่างของเด็กน้อยที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวนดอกไม้
พร้อมๆ กับสายตาที่มองไปยังร่างเล็กอีกคน… แม่ของลูกสินะ
เด็กน้อย… กว่าทรยศคนอย่าง ปาร์ค ชานยอล เตรียมพร้อมหัวใจไว้แล้วหรือยังละ?
“ครับ! สามปีแล้ว…”
“ได้เวลาทวงทุกอย่างคืนแล้วสิน่ะ!” คำพูดที่ถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอของจ้าวเหวย
หากแต่สายตายังคงจ้องมองคุณหนูของเค้าด้วยความสงสารแต่เจ้านายหนุ่มกลับมองด้วยความโกรธเคือง
“จะทำยังไงกับคุณหนูครับ”
“ฉันต้องการแค่ลูก… ส่วนแม่ของลูกอีกไม่นานคงตามมาเอง!”
“ครับ” อยากจะห้ามปรามอยากจะร้องขอ มันไม่ดีเลยสักนิดหากจะทำร้ายหัวใจตัวเอง
ปากบอกว่าต้องการแค่ลูกแต่ทำไม่แววตากลับจ้องมองแม่ของลูกจนแทบอยากจะกลืนกินแบบนั้นละ
“จัดการซะ! ฉันจะพาลู่ชานกลับกรุงโรม ส่วนคนทรยศ… รอก็แค่เวลาที่จะตามมา!”
ภายใต้รถคันหรูกับร่างเล็กน่ารักน่าหยิกกำลังนอนคู้อยู่ข้างๆ ร่างสูงของใครอีกคน… อื้อ เสียงครางเล็กๆ
ดังขึ้นมาเพราะความหนาวจากแอร์ภายในรถทำให้ร่างเล็กของเด็กน้อยรู้สึกหนาวจับใจ
“จ้าวเหวยเบาแอร์หน่อยสิ ลูกฉันหนาว…”
เสียงหนักแน่นแต่เบาหวิวเอ่ยออกมาเพราะเกรงว่าลูกน้อยจะตื่นมือหนาลูบผมดกดำอย่างเบามือ
ให้ตายสิ!
สามปีก่อนเค้าทำอะไรลงไป
นี่เค้าเกือบจะฆ่าลูกน้อยที่แสนน่ารักน่าชังคนนี้ไปได้อย่างไร
แต่ที่น่าเจ็บใจยิ่งกว่าก็คงหนีไม่พ้นแม่ของลูกสินะ… มองยังไงใบหน้าสวยหวานของใครอีกคนกลับดูไม่แตกต่างไปจากเด็กน้อยคนนี้เลย
ถ้าให้นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้… ในสวนดอกไม้ภายใต้บ้านหลังใหญ่หากแต่เด็กน้อยกับคาดสายตาจากผู้เป็นแม่เพราะความซุกซน
หารู้ไหมว่ากำลังเปิดโอกาสให้ใครอีกคนก้าวเข้ามาช่วงชิงดวงใจดวงน้อยนี้ไป
‘อยากเจอพ่อไหมเด็กน้อย…’
‘คุณลุงเป็นใครฮะ แล้วป๊าของผมยังอยู่เหรอ?
แม่บอกว่าป๊าอยู่ในที่ที่ไกลแสนไกลไม่สามารถเอื้อมถึง… ลู่ชานไม่เข้าใจเลยฮะ’
ป๊า…
หึ!! มันช่างไม่แตกต่างกันเลยสินะ
ให้ตายสิทำไมเด็กน้อยคนนี้ถึงได้ฉลาดกล้าคิดกล้าถามแบบนี้
แถมความจำยังดีเป็นเลิศสำหรับเด็กอายุเท่านี้…
‘เอื้อมถึงสิครับ ไปกับลุงนะ…’
‘แล้วแม่กวางน้อยของลู่ชานละฮะ’ แววตาชั่งใจเล็กน้อยหันไปมองใครอีกคนที่นั่งอยู่ในสวนดอกไม้
หากแต่ผู้เป็นแม่เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่จนลืมสนใจ
‘แม่กวางน้อย ชื่อน่ารักนะครับ’
‘อิอิ! คุณพ่อฮุนบอกว่าถ้าเรียกแม่แบบนี้
แม่จะชอบทำตัวน่ารัก ผมอยากเห็นแม่ยิ้มแล้วอ้อน…’ สายตาจ้องมองไปยังร่างเล็กในสวนดอกไม้สีขาว
แววตาบัดนี้กลับดูน่ากลัวเหลือเกิน
คุณพ่อฮุนงั้นเหรอ?
สอนให้ลูกเค้าเรียกคนอื่นว่าพ่อ
และบอกกับลูกไปว่าป๊าอยู่ในที่ที่เอื้อมไม่ถึง… คนทรยศ!! เจอกันเมื่อไหร่รอรับโทษทัณฑ์ได้เลย
‘ครับ! ว่าไงจะไปกับลุงไหม’
‘อยากให้แม่กวางน้อยไปด้วย… แม่ชอบทำหน้าเศร้าเวลาผมถามถึงป๊า อยากให้แม่เจอป๊าด้วย’ คำตอบของเด็กน้อยกลับสร้างรอยยิ้มให้คนตรงหน้าโดยไม่รู้ตัว
‘ลุงจะให้จ้าวเหวยมารับแม่กวางน้อยของลู่ชานตามไปนะครับ
ตอนนี้ไปกับลุงก่อนดีกว่า ไม่กลัวว่าป๊าจะไปในที่ที่ไกลกว่าเดิมเหรอครับ’ วาจาช่างยั่วยุเด็กน้อยเหลือเกิน
นิ้วชีเรียวยาวถูกแตะลงข้างแก้มป่องช่างใจคิดว่าจะเอายังไงดี
หากแต่ความคิดถึงคนเป็นป๊ากลับมีมากกว่า
‘ไปฮะ
แต่คุณลุงต้องรีบมารับแม่กวางน้อยของลู่ชานนะ’
‘ครับ…’
ทุกอย่างไปได้สวยอย่างที่เค้าไม่คาดคิดมาก่อน คิดว่ามันจะยุ่งยากกว่านี้ด้วยซ้ำไป
แต่แล้วสวรรค์กลับเข้าข้างให้เด็กน้อยวิ่งออกมาจากสวนดอกไม้สีขาวจนได้พบกัน
“รีบตามมาละคนทรยศ
ฉันรออยู่…”
อุ้มลูกน้อยขึ้นมาบนตักกว้างกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาความอบอุ่น
!!!
อีกมุมหนึ่งของสวนดอกไม้สีขาว คนเป็นแม่แทบขาดใจที่จู่ๆ
ลูกน้อยก็หายออไปจากสวนไม่ว่าจะตามหาสักเท่าไหร่ก็ไม่เจอ… หัวใจดวงน้อยๆ กำลังจะแตกสลาย
“ฮือๆๆๆ ลู่ชาน อย่าแกล้งแม่แบบนี้สิครับ”
เดินตามหาให้ทั่วก็ไม่เจอ ไม่ว่าใครต่อใครจะช่วยกันออกตามหาก็ไม่มี
“ใจเย็นๆ นะครับเด็กน้อย…” เอ่ยด้วยวาจาห่วงใยหลังจากที่ได้รับข่าวว่าเด็กน้อยแสนซนของบ้านหายไปทุกอย่างที่กำลังทำอยู่หยุดชะงักพร้อมกับสองเท้าวิ่งออกมาอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วงใครอีกคน
“เด็กคนเดียวยังดูแลไม่ได้ พวกแกนี่มัน…”
“อะ… อึก อย่าไปโทษพวกเค้าเลยครับ ผมผิดเองที่ไม่ดูลูกให้ดี”
แสนเจ็บปวดร่างกายแทบยืนไม่อยู่หากแต่มือหนากับรั้งเอวบางเอาไว้เพื่อเป็นที่พึ่งพิงให้
“เข้าไปดูกล้องวงจรปิดในบ้านกันเถอะ
เผื่อจะได้เบาะแสอะไรบ้าง?” พยุงร่างเล็กให้กลับเข้าไปด้านใน
จอทีวีขนาดใหญ่กำลังถูกเปิดออกพร้อมกับภาพที่ฉายเบื้องหน้า
วินาทีที่เห็นว่าลูกน้อยกำลังวิ่งออกไปจากสวนร่างทั้งร่างที่ตั้งตัวได้ก็แทบไม่มีแรงจะยืน
แต่ที่น่าเจ็บปวดจนน้ำตาต้องไหลรินออกมาอย่างกับสายน้ำก็คือภาพของใครอีกคน
ปาร์ค ชานยอล
ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ… ต้องไม่ใช่เค้า!!!
อย่าพรากหัวใจดวงนี้ไปจากผมอีกเลย มันเจ็บปวดเหลือเกิน… น้ำตาไหลรินอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ภาพทั้งหมดหายไปแต่ทุกอย่างกลับถูกบันทึกไว้ในโสตประสาทของสมองและหัวใจ!!!
“ผู้ชายคนนี้สินะที่วิ่งหนีมาตลอด…” เหมือนเสียงระฆังที่ตีก้องอยู่ในหัวใจ
สิ่งที่อยากลืมกลับตามมาหลอกหลอนกันอีกจนได้
เค้ากลับมาแล้ว กลับมาพรากหัวใจดวงน้อยไปจนได้สินะ…
L
“ช่วยพาลู่ชานกลับมาได้ไหมครับ”
“ไม่มีใครกล้าท้าทายมาเฟียอย่างปาร์คานยอลหรอกนะ
ทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรกว่าเป็นผู้ชายคนนี้”
แรงกระชับจากฝ่ามือหนาที่หัวไหล่เล็กทำให้น้ำตาของลู่หานยิ่งไหลมากขึ้น อยากปิดบังมาตลอดสามปีแต่ทำไมวันนี้ความลับถึงไม่มีอยู่จริง
“ขอโทษครับ แต่ผมอยากให้มันเป็นอดีต…”
“แล้วไม่คิดว่าลู่ชานจะเสียใจเหรอ
เด็กทุกคนต้องการความสมบูรณ์แบบของครอบครัว!” เหมือนกำลังถูกตำหนิจากผู้ชายแสนดีที่อบอุ่นอย่างโอเซฮุน
แต่ที่เค้าพูดคงจะถูกเพราะสิ่งนี้ลู่หานเองก็ตามหามาทั้งชีวิตเหมือนกัน
“ฮือๆ พี่ช่วมผมได้ไหม?”
“พี่ช่วยไม่ได้หรอกนะ… ช่วยได้ก็แค่พาเรากลับไปตามหาหัวใจตัวเอง
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับลูกกวางน้อยว่าจะเอายังไง?”
แรงแทบไม่มีจะยืน นี่ต้องกลับไปจริงๆ เหรอ? แล้วที่พยายามหนีมาตั้งสามปีมันคืออะไร… ราวกับคำสัญญานั้นกำลังตามมาหลอก
‘แค่สามปีเท่านั้นที่ป๊าจะปล่อยไป…’
สติทุกอย่างดับวูบไปพร้อมๆ กับหัวใจที่กำลังจะจางหาย!!!
ร่างสูงทอดสายตามองร่างเล็กที่กำลังนอนหลับอยู่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายออกมาไม่ได้… มันรู้สึกดีและมีความสุขเหลือเกิน!
ลูก…
นี่สินะความรู้สึกแรกของคนเป็นพ่อที่ได้สัมผัส
ทั้งยิ้มและมองร่างเล็กของลูกชายด้วยความสุขที่คิดว่าทั้งชีวิตนี้จะไม่ได้เจอมันอีกแล้ว
ตั้งแต่วันที่ถูกจางอี้ชิงทิ้งไป แต่เปล่าเลย… นี่ต่างหากความสุขที่หาสิ่งไหนมาเปรียบไม่ได้
ลู่ชานลูกรัก…
“ดูท่าจะเหนื่อยจากการเดินทางนะครับ”
เสียงของจ้าวเหวยทักท้วงขึ้นมาจนทำให้คนเป็นพ่ออย่างปาร์คชานยอลต้องหันมามองหน้าลูกน้องคนสนิท
“ฉันอยากได้พี่เลี้ยงเด็ก”
“เดี๋ยวผมจะจัดการให้ครับ”
เพราะกลัวว่าจะไม่ค่อยมีเวลาให้มากนักจึงอยากหาพี่เลี้ยงเด็กสักคนมาช่วยดูแลเผื่อลูกน้อยของเค้าจะอบอุ่นขึ้นมาบ้าง
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คนทรยศถึงจะตามมา…
“แล้วคุณหนูละครับ”
จากรอยยิ้มที่เคยมีกลับรู้สึกไม่พอใจนักเมื่อต้องนึกถึงชื่อและใบหน้าหวานของใครอีกคน
เด็กกรำพร้าที่เค้ากระชากขึ้นมาจากสถานที่โสมมแต่บัดนี้กลับเป็นคนที่พยายามจะดึกให้เค้าลงไปเกลือกกรั่วกับสิ่งพวกนั้นจากการกระทำที่เลวร้ายของตัวเอง
“ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องของเด็กคนนั้น”
“แต่ถ้านานกว่านี้คุณหนูลู่ชานอาจจะสงสัยได้นะครับ… เด็กต้องการแม่!!!” เหมือนคำพูดนี้จะแทงใจดำปาร์คชานยอลซะเหลือเกิน
“หุบปากได้แล้วจ้าวเหวย!!!”
“ผมแค่…”
“ออกไปซะ!”
“ครับ”
ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
อยากจะช่วยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าพูด… แม้ว่าพูดยังจะทำได้ยากเหลือเกิน
เพราะเจ้านายของจ้าวเหวยดูจะยังโกรธที่ถูกเด็กน้อยคนนั้นหลอกเอาได้ทั้งๆ
ที่คิดว่าทั้งชีวิตจะไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับมาเฟียอย่างเจ้านายเค้าแท้ๆ
แต่ก็นะ…
กล้าพาหัวใจหนีไปทั้งสองดวงแบบนี้ใครจะไปยอมง่ายๆ ละ!
หัวใจหนึ่งดวงที่ไม่คิดว่ารักแบบไหน?
และหัวใจที่บริสุทธิ์อีกหนึ่งดวงที่รักยิ่งกว่าชีวิต…
“รีบกลับมานะครับคุณหนู
ผมอยากเห็นมาเฟียที่หยิ่งผยองมาทั้งชีวิตพ่ายแพ้ให้กับหัวใจตัวเอง J” จ้าวเหวายมองบานประตูที่ค่อยๆ ปิดลงด้วยฝีมือของตัวเองพร้อมทั้งรอยยิ้ม
!!!
…
.
.
ม่านน้ำตามากมายที่หลั่งไหลกับความรู้สึกกลัวของคนเป็นแม่
ไม่ว่าจะต้องร้องไห้หนักแค่ไหน?
มันก็ไม่อาจคลายความกังวลกับความเป็นห่วงลูกน้อยได้เลยแม้แต่นิดเดียว
ป่านนี้จะกินอะไรหรือยัง?
แล้วเค้าจะดูแลดีไหม?
“อะ… อึก แม่ขอโทษ… ขอโทษที่พาลูกหนีจากคนใจร้ายไม่ได้!”
L
น้ำตาที่ไหลแล้วไหลอีก ไม่อาจหยุดลงได้… หากเทียบเท่ากับความเจ็บปวดที่หัวใจดวงนี้จะได้รับ
วันเวลาที่ผ่านมาแม้จะไม่ลืมแต่ได้พานพบกับใบหน้านั้นผ่านสื่อมากมายก็ตาม
หากแต่ความทรงจำที่เคยผ่านมากลับตามมาตอกย้ำให้หัวใจได้เจ็บปวดอยู่เรื่อยไป
ก๊อก ก๊อก
ร่างเล็กที่กอดเข่านั่งร้องไห้อยู่ในห้องกว้างของตัวเองที่เคยมีใครอีกคนคอยพูดจาให้ฟังจนไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
ต้องสะดุ้งสุดตัวเงยหน้าเปื้อนน้ำตามองไปยังบานประตูที่ค่อยๆ เปิดเข้ามา…
พี่ชายที่แสนดีกำลังยิ้มให้กับลูกกวางน้อย
ในมือถือแก้วนมอุ่นมาด้วย…
“ดื่มนมแล้วพักผ่อนซะนะ” เซฮุนยื่นแก้วนมอุ่นให้กับลู่หาน
หากแต่ร่างเล็กกลับไม่มีเรี่ยวแรงพอจะรับแก้วนั่นเอาไว้ด้วยซ้ำได้แต่มองมันด้วยความร้าวราน
เพราะนึกถึงใครอีกคนที่มักอ้อนให้เค้าป้อนนมให้ดื่มทุกๆ คืน
“ผมคิดถึงลูก ฮือๆ”
“คิดถึงก็ไปหาสิ…”
“ผมไม่อยากเจอเค้า… อะ… อึก ผมกลัว! ผมโกหกเค้า”
ซบหน้าลงกับเข่าทั้งสองข้างน้ำตาที่ไหลรินยิ่งกว่าสายน้ำปาดจะขาดใจ
รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายอย่างปาร์คชานยอลเกลียดคนโกหกมากแค่ไหน
แต่ไฉนเด็กน้อยอย่างเค้าถึงกล้าทำและทรยศผู้มีพระคุณแบบนั้นได้ละ
“อย่ากลัวกับสิ่งที่ยังเดินมาไม่ถึงสิ”
แก้วนมอุ่นถูกวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง ร่างสูงนั่งลงข้างๆ
ร่างของลูกกวางน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ดึงร่างนั้นเข้ามากอดเอาไว้เพื่อปลอบโยน
“ถ้ามัวแต่กลัว แล้วเมื่อไหร่จะก้าวผ่านไปได้”
“แต่ปาร์ค ชานยอลน่ากลัว… เวลาที่เค้าโกรธเค้าจะใจร้าย! ฮือๆ
ผมเจ็บ… ผมไม่อยากเจ็บเพราะเค้าอีกแล้ว”
ซบหน้าลงกับอกกว้างอย่างทรมานเมื่อใบหน้าแสนใจร้ายของผู้ชายที่หัวใจดวงนี้รักยิ่งกว่าสิ่งใดปรากฏขึ้นมา
“ลู่หาน… ฟังพี่นะ ถ้านายยังไม่กล้าพอที่จะก้าวเดินไปข้างหน้า นายก็จะยืนอยู่ข้างหลังคนเดียวและไม่เหลือใครสักคนแม้แต่ลูก…”
!!!
“อะ อึก… ไม่!”
“ถ้าไม่ ก็ไปกลับไปสิ… กลับไปทำร้ายผู้ชายคนนั้นบ้าง? กลับไปทวงหัวใจของนายคืนมาสิ
พี่เชื่อนะว่ากวางน้อยของพี่ทำได้!!!”
มือหนาค่อยๆ ปาดน้ำตาที่ไหลอยู่ให้อย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้ม
ลู่หานเองก็ค่อยๆ
ผละออกจากร่างสูงของเซฮุนจ้องมองใบหน้าพี่ชายที่แสนดีนึกขอบคุณที่เตือนสติไม่งั้นความกลัวก็จะทำให้เค้าไม่กล้าก้าวเดินไปข้างหน้าแน่นอน
“ผมจะไปตามลูกกลับมา…”
“แค่ลูกงั้นเหรอลู่หาน… แค่นี้จริงๆ หรือเปล่า?”
ยื่นฝ่ามือไปขยี้หัวร่างเล็กลุกขึ้นยืน
!!!
“ไม่ต้องตอบพี่หรอกนะ เพราะคำตอบมันรออยู่ข้างหน้าแล้ว… ฝันดีนะครับ พรุ่งนี้ก็เตรียมตัวเดินทางซะ!!!”
หลังจากที่ร่างสูงของเซฮุนเดินออกไปแล้ว
แก้วนมอุ่นก็ถูกยกขึ้นมาดื่มจนหมดก่อนที่ร่างเล็กจะปิดไฟหัวเตียงแล้วล้มตัวลงนอน…
หากหัวใจยังอ่อนแอก็ไม่มีวันเข้มแข็งขึ้นมาได้…
หากวันนี้อยากได้หัวใจกลับคืนมา ก็ต้องพาหัวใจกลับไปแลกเปลี่ยน…
หากยังอ่อนแอน ก็จะถูกรั้งแก… ความร้ายเท่านั้นที่จะเอาชนะคนใจร้ายได้
“ต่อให้ป๊าจะร้ายมากแค่ไหน? แต่ผมจะร้ายกว่า… วันนี้ผมไม่ใช่เด็กที่ไร้เดียงสาคนนั้นอีกแล้ว
ผมขอหัวใจคืนนะครับป๊า… แล้วเจอกัน!!!”
J
ยกยิ้มขึ้นก่อนที่เปลือกตาทั้งสองข้างจะหลับลงด้วยความเหนื่อยจากการร้องหายมากนานหลายชั่วโมง
พรุ่งนี้แล้วสินะที่จะได้เจอกัน… รอแม่นะครับคนดี -//////-
…
.
.
!!!
“อื้อ… แม่กวางน้อย หนาว… ชานหนาว กอดหน่อยสิฮะ กอดๆ กอดชาน…”
อีกฝากหนึ่งของประเทศ ณ กรุงโรม
ร่างเล็กที่เอาแต่ร้องครางหาความอบอุ่นจากอ้อมกอดของแม่
ร้องเรียกด้วยเสียงสะอื้นหนักเบาจนคนที่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆ ได้ยินและหันไปมอง
เรียวคิ้วหนาสวยขมวดเข้าหากันก่อนจะก้าวเท้ายาวๆ เข้าไปหาลูกรักทันที
“แม่กวางน้อยของลู่ชาน… หนาวจังครับ ป๊าไปไหน… ทำไมป๊าถึงไม่กอดเราสองคน!”
เหมือนหัวใจกำลังถูกกรีดแทงด้วยคำพูดจากปากของลูกชายและหัวใจดวงน้อยๆ
แสนบริสุทธิ์… ร่างสูงของปาร์คชานยอลค่อยๆ
ขยับขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมทั้งล้มตัวลงนอนข้างกายลูกชาย
ดึงรั้งร่างเล็กเข้ามากอดเอาไว้เพื่อช่วยบรรเทาความหนาว
“ป๊าอยู่นี่แล้วนะครับคนดี… ป๊าสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเราไปไหนอีกแล้ว แค่เราเท่านั้น!!!”
แค่เราเท่านั้น… รวมแม่ของลูกด้วยหรือเปล่า? ขนาดเจ้าตัวยังคิดไม่ออก
จุ๊บ -////////-
พรหมจูบอย่างอ่อนโยนที่เรือนผมดกดำของลูกชาย
เอื้อมมือไปปิดไฟหัวเตียงก่อนจะนอนลงและกกอดลูกน้อยอย่างอ่อนโยน
“ป๊าขอโทษนะครับ ต่อไปนี้ลู่ชานจะไม่เหงาอีกแล้ว”
กระชับอ้อมแขนกอดลูกน้อยให้แน่นขึ้น
ร่างเล็กของลูกชายก็ซุกหน้าเข้ามาหมายมั่นจะกอดร่างนี้เอาไว้… ในใจนึกคิดว่าทำไมร่างนี้ถึงไม่เหมือนแม่กวางน้อยหากแต่อบอุ่นเท่าๆ
กันจนไม่อาจจะลืมตาขึ้นมามองได้
“อื้อ… แม่กวางน้อย ชานฝันเห็นป๊า… ป๊ากำลังกอดพวกเราสองคนอยู่!” มือเล็กทั้งสองข้างกำเสื้อยืดของคนเป็นพ่อซะแน่น
เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิวหมายจะบอกกับแม่กวางน้อยของตน… ยกยิ้มในความมืดด้วยความรู้สึกอบอุ่น
“ฝันดีนะครับลูกรัก… อีกไม่นานเราคงได้นอนกอดกันสามคนพ่อแม่ลูก!”
หรือนี่จะเป็นคำสารภาพที่อยากให้ลูกรู้สึกดี
แต่ความไมความโกรธเคืองที่มีในหัวใจกลับจางหาย… หรือเค้ากำลังลุ่มหลงกับน้ำคำของลูกน้อยกันแน่
ปาร์ค ชานยอล…
อย่าใจอ่อนง่ายๆ ละ คนทรยศต้องได้รับบทเรียนสิ!!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น