: Embrace!
1.
Life and heart.
ร่างเล็กทอดสายตาจ้องมองใบหน้าหล่อ… หนวดเคราที่เต็มคางมนสวย…
กลิ่นเหล้าหึ่งเต็มไปหมดภายในห้องกว้างรูปสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่
แสงไฟที่ถูกเปิดออกให้สว่างจ้ากับผู้ชายร่างสูงที่นอนเปลือยกายท่อนบน ข้างๆ มีขวดไวน์ยี่ห้อดีมากมายตั้งอยู่
กี่คืนแล้วกับภาพที่ได้เห็น
กี่คืนแล้วกับผู้ชายคนนี้ที่นอนเมาอย่างกับคนบ้าอยู่แบบนี้…
ปาร์ค ชานยอล
ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบุญธรรมของเค้า… ลู่หาน
เด็กน้อยกำพร้าที่ต้องเจอกับเหตุการณ์เลวร้ายมากมายจนวันหนึ่งมือหนาคู่นี้ก็ยื่นเข้ามา
ทุกอย่างคือความสุขที่ถูกหยิบยื่นเข้ามาให้… แต่ทำไมวันนี้ผู้มีพระคุณถึงมีสภาพที่แย่แบบนี้ละ
“ป๊า… ตื่นสิฮะ”
มือเล็กเขย่าแขนของผู้มีพระคุณเพื่อเรียกสติให้กับมา
ลู่หานในวัย 19
ปีเศษกับผู้ชายวัย 24 ปีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อบุญธรรมหรือผู้มีพระคุณ
วันเวลาที่เลวร้ายในสถานบันเทิงเมื่อ 5 ปีก่อนกับการได้เจอกับลูกชายมาเฟียหนุ่มอย่างปาร์คชานยอล
คือสวรรค์สำหรับลู่หานเลยทีเดียว
ผ่านมา 5 ปีแล้วสินะกับความเลวร้ายนั้น
ทุกลมหายใจที่มีก็คงต้องอยู่เพื่อผู้มีพระคุณคนนี้!!!
“อื้อ… อี้ชิง”
ร่างเล็กชะงักมือทันทีเมื่อผู้มีพระคุณร้องครางชื่อของใครอีกคนออกมา
“อี้ชิง… ทำไมใจร้ายกับหัวใจฉันแบบนี้”
เสียงดังก้องกังวานแต่มันกลับรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ
น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับคำพูดที่ได้ยิน… การแอบรักผู้มีพระคุณทำไมถึงได้เจ็บปวดแบบนี้นะ!!!
ปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะพยุงตัวเองลุกขึ้นยืน แต่ทว่ามือหนากลับคว้าร่างเล็กไปก่อนจะกดทับให้นอนราบลงกับเตียงกว้าง
ร่างสูงขึ้นไปทาบทับอย่างลืมตัวเพราะความเมาและการโหยหาถึงคนรัก
“อย่าทิ้งฉันสิอี้ชิง… อย่าทิ้ง!”
“ป๊านี่ผม… อื้อ…”
เสียงเล็กขาดหายไปในห้วงลมหายใจที่ถูกช่วงชิง ความต้องการที่เกิดขึ้นจากการยัดเหยียดของร่างสูงไม่มีเรียวแรงที่จะขัดขืนด้วยซ้ำไป
ลิ้นร้อนเกี้ยวพันถือดีฉกฉวยอยากโหยหา ไม่มีเรียวแรงที่จะต่อต้านจนสุดท้ายต้องยอม
“อี้ชิง คิดถึง… ฉันคิดถึงเหลือเกิน”
จูบซับขบเม้มริมฝีปากบาง โหยหาอย่างถึงที่สุด… ราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
มันคือความหอมหวานที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็ห้ามใจไม่ได้… ไม่เคยแตะต้องแต่วันนี้ขอได้ไหมขอเป็นเจ้าของร่างนี้
“อื้อ… เจ็บ!”
บทรักที่ดำเนินไปโดยไม่รู้ความหมายที่แท้จริง
แต่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็เพราะความเมา… ร่างทั้งร่างที่ถูกกระทำเจ็บปวดเหลือเกินที่เสียงนี้ไม่ได้เรียกชื่อของตัวเอง
กระแทกที่เข้ามามันย้ำเตือนว่าเป็นได้แค่ที่ระบายและความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้น แต่พร้อมจะยอมเพราะร่างสูงตรงหน้าคือผู้มีพระคุณที่ตนเองแอบรักมานาน…
ใกล้รุ่งร่างบางที่บอบช้ำค่อยๆ
พาร่างของตัวเองลงมาจากเตียงกว้างคราบเลือดที่เปื้อนบนเตียงทำให้แววตาเล็กร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
จะทำยังไงไม่ให้เค้ารู้… และจะทำยังไงไม่ให้ความรู้สึกเสียใจนี้ถูกแสดงออกมา!!!
พยามทำลายหลักฐานผ้าชุบน้ำถูกชะล้างผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด
ต่อให้พยายามมากแค่ไหนแต่ทำไมคราบเลือดมากมายถึงไม่จางหายไปสักที มันทรมาน… ช่วยหายไปให้หมดสิ้นจะได้ไหม?
ซ่า…
สายน้ำที่ชะล้างลงมากระทบกับร่างกายขาวที่เต็มไปด้วยจ้ำแดงๆ
มากมาย… จะทำยังไงให้มันหายไป
แล้วจะทำยังไงให้ความรู้สึกเจ็บปวดนี้จบสิ้น!!!
ทรมานเหลือเกิน…
“อะ อึก ฮือๆๆ รัก… รักป๊าที่สุด!”
น้ำตามากมายที่ไหลรินไม่อาจทำให้หัวใจดวงน้อยๆ
ที่เจ็บปวดจางหายลงไปได้เลย มีแต่จะเจ็บปวดลงไปเรื่อยๆ … หายไป! ต้องหายไปจากที่นี่ ต้องอยู่ให้ห่างจากเค้าใช่ไหม?
“ฮือๆ ป๊า… ไม่อยากทิ้ง
ผมไม่อยากอยู่ห่างป๊า…”
มันคือความรู้สึกเจ็บปวด
แต่ถ้าอยู่ด้วยกันจะเจ็บไปมากกว่านี้ ตัดสินใจเด็ดขาดถึงยังไงก็จะต้องคุยกับเค้า ให้ตายยังไงก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้สินะ…
“ไปอยู่ไทเป!!!”
คำถามที่ถูกเน้นย้ำจากผู้มีพระคุณ
ในเช้าวันใหม่ที่ถูกรบกวนจากน้ำเสียงใสๆ
เรื่องราวเมื่อคืนที่เกิดขึ้นมันเหมือนจริงเหลือเกิน… อี้งชิง
อยากให้มันเป็นความจริงถ้าใช่ก็ไม่อยากตื่นขึ้นมาเลยด้วยซ้ำไป
“ครับ!”
“เหตุผลละ…”
“ผมอยากไปเรียนต่อที่นั่น…”
พยายามหาเหตุผลมาอ้างเพราะเรื่องราวที่แท้จริงคือต้องการหนีไปจากเค้าคนนี้ต่างหาก
ปาร์ค ชานยอล ผู้มีพระคุณที่ได้ทั้งตัวและหัวใจของเด็กน้อยไปจนหมดสิ้น
“ที่กรุงโรมก็มีออกเยอะแยะ”
ผู้มีพระคุณเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจทำไมวันนี้เด็กน้อยของเค้าถึงอยากโบยบินไปจากรังที่แสนสบายนี้นักนะ
“แต่ผมอยากไปไทเป!”
“ลู่หาน! เด็กน้อย… กำลังมีอะไรปิดบังฉันอยู่หรือเปล่า?”
สายตาเหลี่ยมคมกำลังจ้องมองลูกกวางน้อยอย่างพิจารณาแต่สายตาคู่เล็กกลับหลบหน้าเค้าเสียดื้อๆ
“สบตา… แล้วบอกป๊ามาซะ!” ไม่อาจขัดคำสั่งได้เพราะรู้ดีว่าคำพูดทุกคำที่ออกมาจากปากของผู้มีพระคุณนั้นยิ่งใหญ่แค่นี้
“นะครับป๊า… ผมอยากไปไทเปจริงๆ
ผมคิดถึงที่นั่น… อยากกลับไปไหว้หลุมศพพ่อกับแม่”
สายตาอ้อนวอนสุดชีวิตหากแต่ต้องกลับไปอยู่ในสถานที่ที่พยายามจะหนีมาทั้งชีวิตโดยไม่มีอ้อมกอดที่อบอุ่น
มันก็น่ากลัวเหลือเกินแต่ก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่
“จะบอกฉันว่าตอนนี้เก่งแล้วสินะ
อยู่ได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาฉันงั้นเหรอ?”
“ป๊า… ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ!”
“แล้วมันอย่างไหน? ไม่กลัวเหรอ… ฉันพาออกมาจากที่โสมมนั่นแล้วแท้ๆ
ยังจะกลับไปอีกงั้นสิ” เหมือนวาจาที่ถ่ายทอดออกไปกำลังโกรธแต่ก็สามารถเรียกน้ำตาจากร่างเล็กได้ดีซะเหลือเกิน
เบือนหน้าหนีสุดชีวิต… พยายามเก็บกดอาการเสียใจนี้เอาไว้!!!
น้ำตาที่ไหล ไม่อาจชะล้างหัวใจที่เจ็บปวดได้เลย…
“ผมอยากไปเรียน ถ้าป๊าไม่อนุญาตผมก็จะไม่ไป… ผมขอตัวนะครับ!” พูดโดยไม่หันมามองหน้ากันสักนิดและการกระทำแบบนี้มันคือสิ่งที่ร่างสูงไม่ชอบใจเอาซะเลย
ต่อให้เรียกสักเท่าไหร่เด็กน้อยก็ไม่ยอมหยุดจนอารมณ์ตอนนี้มันพุ่งไปมากมายเหลือเกิน
“เด็กดื้อ!!!!”
“เธอร้องไห้ไปครับ…”
“ช่างปะไร… คิดว่าฉันจะสนใจเหรอ?”
ไม่สนใจ
แต่ทำไมอารมณ์ตอนนี้ถึงได้บูดบึ้งแบบนี้ละ… รอยยิ้มเย้ยหยันของลูกน้องคนสนิทอย่างจ้าวเหวย…
จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเจ้านายหนุ่ม
ดูก็รู้ว่าแค่ร่างเล็กที่เพิ่งเดินออกไปมากแค่ไหนหากแต่พยายามเก็บอาการเอาไว้ก็เท่านั้น
“หยุดยิ้ม… แล้วเรื่องของอี้ชิงที่ให้ไปสืบละ!!!”
เปลี่ยนเรื่องสนทนาในทันที ก่อนจะรวบช้อนที่ถืออยู่ในมือ
หากตอนนี้ต้องนั่งกินข้าวคนเดียวสู้ไม่กินยังจะดีกว่าอีก
มันเคยชินไปซะแล้วกับการต้องนั่งกินข้าวกับใครอีกคน
“หายตัวไปครับ! ไม่มีข่าวคราว… ดูเหมือนเธอจะไม่อยู่ที่กรุงโรมแล้ว”
“งั้นก็ไปสืบมาสิ…”
“แล้วเรื่องคุณหนูละครับ ตกลงนายจะให้เธอไปเรียนต่อที่ไทเปหรือเปล่า?”
เงยหน้าไปจ้องมองลูกน้องคนสนิทที่ช่วงนี้ดูจะพูดมากและทำงานนอกเหนือคำสั่งไปมากเลยทีเดียว
“อย่ามายุ่ง! ไปทำตามที่ฉันสั่งซะ…”
“อาการแบบนี้เรียกว่าหวง หรือไม่อยากให้ไปไหนไกลๆ
กันแน่ครับ”
ปัง!!!
“จ้าวเหวย… อยากตายนักใช่ไหม?”
โค้งคำนับด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินออกไป
หากไม่ใช่เพราะมีข้อผูกมัดด้วยคำว่าพ่อลูก(บุญธรรม)ป่านนี้ลูกกวางน้อยคงเป็นเจ้าของหัวใจเสือร้ายไปซะแล้วละ…
“เฮ้อ! ฉันจะทำยังไงกับลูกกวางน้อยคนนี้ดี…”
!!!
ร่างเล็กนอนร้องไห้อยู่ในห้องเพราะความน้อยใจและคำพูดทำร้ายจิตใจที่โต๊ะอาหาร
ทำให้ความคิดที่อยากจะไปจากเค้ามีมากขึ้น… ถ้าหากยังอยู่ด้วยกันนานกว่านี้หัวใจคงเจ็บปวดหนักขึ้น
ได้โปรด!
สวรรค์ช่วยดลใจให้ป๊าอนุญาตหน่อยได้ไหม?
นอนร้องไห้สะอื้นจนสุดท้ายได้ยินเสียงประตูห้องเปิดเข้ามาจะเป็นใครไปไม่ได้เพราะมีอยู่คนเดียว… แอบแกล้งหลับเพื่อรอฟังคำพูดมากมาย
เตียงนุ่มยุบตัวลงทันทีเพื่อบ่งบอกว่ามีร่างของใครอีกคนนั่งอยู่ด้วย มือหนาลูบเบาๆ
ที่เรือนผมดกดำเพื่อปลอบโยน น้ำตาน้อยๆ เริ่มไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว…
“ป๊ารู้ว่าเราแกล้งหลับ…”
ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้างกายคว้าเอวเล็กเข้ามากอดเอาไว้
ความรู้สึกที่มีคือห่วงหาอาทรลูกน้อยที่โตขึ้นเรื่อยๆ
ไม่อยากให้ห่างหายเพราะหวงแหงนเหลือเกิน
กลัวว่าเด็กน้อยของเค้าจะได้รับอันตรายอีกครั้ง…
!!!
“ครั้งนี้ป๊าจะยอม แต่แค่ 3 ปีเท่านั้นที่ป๊าจะปล่อยไป…”
จุ๊บ -/////////-
ริมฝีปากอ่อนโยนประทับจูบลงบนเรือนผมสีดำสนิทกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
ขอแค่ 3 ปีเท่านั้น…
3 ปีที่จะได้โบยบินไปโดยไม่มีเค้าคอยดูแลอยู่ข้างกาย
แต่จะคอยอยู่ห่างๆ เพื่อเฝ้ามอง
6 เดือนต่อมา…
มหานครไทเป,
วันเวลาผ่านไปอย่างน่าตกใจในห้องพักสี่เหลี่ยมขนาดเล็กแสนอบอุ่น
กับความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
กี่เดือนแล้วที่ไม่ได้ไปมหาลัยเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกว้างๆ นี้… ไม่ได้ติดต่อกลับไปหาผู้มีพระคุณ
ห่างหายแต่ก็ไม่เคยไปไหนไกลเพราะเค้าเองก็ยุ่งจนไม่มีเวลามาสนใจ
หน้าท้องที่เคยแบนราบแต่ทำไมบัดนี้ถึงได้นูนขึ้น…
หยาดน้ำตาไหลรินไม่อาจห้ามหัวใจได้เลยแม้แต่เสี้ยววินาที
สายใจที่กำลังจะเชื่อมโยง… รอยร้าวในหัวใจกับความเจ็บปวด น้ำตาไม่อาจหยุดไหล
ลุกขึ้นยืนมองภาพตัวเองผ่านกระจกหน้าท้องที่นูนขึ้นมากับร่างกายที่ดูสง่าขึ้น
สามเดือนก่อนตั้งแต่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายก็รีบไปพบหมอทันที
แต่การที่ได้รับรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมาก!!! สามเดือนให้หลังกับการเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้องนอนร้องไห้ทุกคืน
ได้รับเพียงข้อความผ่านทางโทรศัพท์จากคนไกลที่แสนคิดถึง
แค่เพียงครั้งเดียว… ครั้งเดียวเท่านั้นแต่ทำไมถึงสร้างหัวใจอีกหนึ่งดวงขึ้นมาได้!!!
L
“นี่มันอะไรกัน?”
คำถามที่สร้างความตกใจให้กับผู้มาเยือน ปาร์ค
ชานยอล… แต่หัวใจดวงน้อยกลับตกวูบลงมาทันทีหยาดน้ำตาที่กำลังจะหยุดไหลกลับคืนมาอีกครั้ง
ร่างสูงของผู้มีพระคุณเดินตรงเข้ามาด้วยท้วงท่าที่สง่างาม
หากแต่แววตากลับเย็นชาจนน่ากลัว
คราแรกคิดว่าอยากมาเซอร์ไพร์เด็กน้อยเร่งทำงานจนสว่างทุกวัน
ตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมาได้แค่ส่งข้อความมาหา แต่ที่ไหนได้สิ่งที่ได้พบเจอในตอนนี้กลับเป็นเรื่องที่เซอร์ไพร์กว่าสำหรับเค้าปาร์คชานยอล
เด็กน้อยของเค้ากำลังตั้งครรภ์สินะ…
แล้วใครกันที่เป็นพ่อเด็ก!!!!!
“ปะ… ป๊า!”
“ฉันถาม!”
พูดพร้อมทั้งกระชากแขนของร่างเล็กเข้ามาด้วยแรงมหาศาล…
“ผมเจ็บ… ปล่อยนะป๊า”
พยายามดึงรั้งแขนของตัวเองกลับมาแต่ทว่ากลับไม่เป็นผล
หยาดน้ำตามากมายไหลรินจ้องมองผู้ชายที่ตนแอบรักด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“เจ็บเหรอ! เจ็บแล้วทำไมถึงร่านแบบนี้…” ราวกับมีดปลายแหลมมากมายปักลงกลางหัวใจ
คำพูดของผู้ชายที่ตนแอบรักทำไมถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้นะ
L
ร้าวราน ทุรนทุรายเหลือเกิน…
“ไม่ได้ร่าน…”
“งั้นก็บอกมา ว่าเด็กในท้องลูกใคร?
ไหนบอกฉันว่ามาเรียน ผ่านไปแค่หกเดือนกลับท้อง! หรือที่ตั้งใจจะมาเพราะอยากกลับไปสถานที่โสมมนั่นจนท้องแบบนี้…”
เพลี๊ย!!!
สุดจะทนกับคำพูดแสนร้ายกาจ
น้ำตาที่ไหลไม่อาจย้อนกลับพอๆ กับคำพูดแสนใจร้ายที่ไม่อาจหวนคืน
ฝ่ามือเล็กตบลงไปยังบนใบหน้าหล่อแสนร้ายกาจของผู้มีพระคุณทันทีเมื่อประโยคแสนเจ็บปวดและทำร้ายหัวใจนั้นจบลง
“ฮือๆ ใจร้าย… ถ้าคิดว่าผมขายตัวละก็
อย่ามายุ่ง! จะไปไหนก็ไป…”
ออกคำสั่งทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่เคยทำได้
สายตาของปาร์คชานยอลจับจ้องมายังเด็กน้อยแสนพยศที่บัดนี้กลับแปดเปื้อนจนน่าสมเพช
หมับ!
“ไปเอามารในท้องนี้ออกซะ!”
คำพูดแต่ละคำไม่เคยคิดหรือไตร่ตรอง
จะให้ลงมือฆ่าลูกของตัวเองงั้นเหรอ? ไม่มีทาง…
“ไม่!”
“กล้าลองดีกับฉันงั้นเหรอ?”
กระชากร่างเล็กให้เดินตามเข้าไปในห้องเสียงประตูห้องถูกปิดลงสะนั่น แม้แต่จ้าวเหวยที่ยืนมองอยู่ตลอดเวลายังไม่กล้าห้ามปรามเพราะรู้ดีว่าระดับความโกรธของเจ้านายตัวเองอยู่ระดับไหน
ถ้าไม่ติดที่ว่าเด็กน้อยคนนั้นคือคนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ละก็
ป่านนี้คงถูกฆ่าตายไปแล้ว!!!
“เจ็บ… อย่านะ!”
ร้องไห้ครวญครางทุรนทุรายแสนสาหัสแต่บทลงโทษในครั้งนี้กับเป็นเรื่องแย่ๆ
ที่ไม่น่าเกิดขึ้น… บทรักที่ชานยอลคิดว่ามันคือครั้งแรกแต่สำหรับเด็กน้อยนี่คือครั้งที่สองต่างหากละ
“ฮือๆ เจ็บ… อื้อ!”
แม้ปากจะบอกว่าเจ็บแต่เสียงร้องครางสุขสมกลับไม่ใช่
และนั้นกลับจุดไฟโทสะแก่เสือร้ายอย่างถึงที่สุด
“ปากบอกว่าเจ็บ แต่ร้องครางด้วยน้ำเสียงยั่วยวน… แบบนี้สินะถึงได้ป่อง!!!” ต่อให้คำพูดมากมายจะเอ่ยออกมามากแค่ไหน
แต่บทรักที่ได้เจอกลับทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป เจ็บปวดที่ไม่ถูกปลอบปละโลม
ไม่มีแม้แต่จะทำให้รู้สึกดี
ทุกสัมผัสมีแต่ความโกรธเกลียดที่สร้างความเจ็บปวดเท่านั้น
“อื้อ… ใจร้าย!”
อ๊า///
ทุกอย่างจบลง
แต่ไม่ใช่แค่ครั้งแรกหากมันเกิดขึ้นซ้ำกันหลายๆ ครั้ง… ในขณะที่ร่างเล็กไร้ซึ่งเรี่ยวแรงจะลืมตาด้วยซ้ำ
“พอแล้ว! หยุด… ผมเป็นห่วงลูก!” หยุดชะงักการกระทำลงทันทีเมื่อคำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก
เรียวขาทั้งสองข้างที่ถูกแยกออกจากกันด้วยมือหนาหยุดการทำงานทุกอย่างจ้องมองใบหน้าเล็กที่เรื่องไห้นั้น
ไม่เข้าใจความรู้สึก แต่ทำไมถึงโกรธมากมายขนาดนี้!!!
“ห่วงนักใช่ไหม? ถ้างั้นฉันจะทำให้แท้ง…”
!!!
ราวกับถูกฆ่าให้ตายทั้งเป็นกับคำพูดนี้… จนหัวใจแดกสลาย
สติดับวูบลงทันที แต่ร่างเล็กหารู้ไหมว่าการกระทำแสนป่าเถื่อนทุกอย่างก็หยุดลงพร้อมกับสติที่ขาดหายไปของเด็กน้อยเหมือนกัน
อารมณ์โกรธยังไม่จางหาย… ก็ต้องกลับออกมา
พบเจอกับสายตาของลูกน้องคนสนิทที่ยืนจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
“เลิกมองฉันด้วยสายตารังเกียจสักที!”
“ผมเปล่านะครับ”
“อย่าปฏิเสธ… ไปสืบมาว่าเด็กในท้องคือลูกของใคร?”
“ครับ!!!”
โกรธ… แต่เพราะที่ระบายคงหมดสติไปแล้วเป็นแน่ถึงได้เดินออกมาอาละวาดด้านนอกแบบนี้
มองภาพเจ้านายหนุ่มก่อนจะโค้งคำนับและไปทำตามคำสั่ง!!!
!!!
รออย่างใจจด ใจจ่อแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ…
“ระหว่างที่อยู่ไทเปคุณหนูไม่ได้คบค้าสมาคมกับใครเป็นพิเศษ
เรียนเสร็จก็กลับมาที่ห้อง จะมีก็แต่ไปไหว้หลุมศพพ่อกับแม่บ้างเป็นครั้งคราว
แต่สามเดือนที่ผ่านมาคุณหนูไม่ได้ไปเรียนเลยครับ ท่าทางจะกลัวคนอื่นรู้ว่า… เอ่อ ตั้งครรภ์”
นั่งฟังด้วยแววตาที่ร้าวรานแรงโทสะมากมายตีกันจนรวนไปหมด
ไม่ได้ไปไหน… แล้วจะท้องได้ยังไง?
“ที่สถานบันเทิงนั้นละ…”
“ไม่เคยไปเหยียบตั้งแต่มาไทเปเลยครับ!”
“แล้วจะท้องกับใคร?”
ขึ้นเสียงสูงด้วยอารมณ์โกรธที่ตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประทุออกไปได้อย่างไร
หากในใจของจ้าวเหวยกำลังขบคิดว่าเจ้านายคงโกรธเพราะหึงเป็นแน่…
“รอคุณหนูตื่นแล้วถามเธอดีๆ สิครับ!”
“แค่เห็นว่าเด็กคนนั้นท้องนูน
ฉันก็แทบอยากจะฆ่าให้ตายทั้งแม่และก็ลูกแล้ว!!!”
“แต่ทำไม่ได้!”
“แต่มีอย่างหนึ่งที่ตอนนี้ฉันทำได้…”
หันกลับมาจ้องมองจ้าวเหวยสายตาเจ้าเล่ห์ลุกขึ้นยืนทันที
“อะไรครับ!”
“ฆ่าแกยังไงละจ้าวเหวย…” ตรงเข้าไปหมายจะทำอย่างที่พูดแต่
จ้าวเหวยกลับเร็วกว่าไปก้าวหนึ่งรีบวิ่งออกจากห้องทันที
“โธ่โว้ย! ทำไมเรื่องถึงวุ่นวายแบบนี้”
ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาอีกครั้งสองมือหน้ากุมขมับครุ่นคิด
ไม่ว่าจะคิดสักเท่าไหร่ก็หาคำตอบไม่ได้สักที
เด็กในท้องเป็นลูกของใคร?
แค่คิดก็ลำบาก… ถ้าตื่นขึ้นมาเจอหน้ากันก็มีแต่จะทะเลาะกันเหมือนเดิม!!!
หมดหนทางแล้วจริงๆ งั้นเหรอ ,,, !!!
ร่างบางที่ตื่นขึ้นมากับความรู้สึกปวดร้าวไปทั้งตัวและหัวใจในสมองหนักอึ้งร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้วด้วยซ้ำ
ปลีตามองใครอีกคนก็ไม่เห็นขยับกายลงจากเตียงกว้างมองไปรอบๆ
ก่อนที่เสียงจากด้านนอกจากดังให้ได้ยิน หากแต่ประตูไม้บานขนาดพอดีกลั้นกลางอยู่…
“ทำไมต้องมามีเรื่องตอนนี้… นายว่าสายของเราเจออี้ชิงที่ไหนนะ?”
ในสมองประมวลผลได้กลับสั่งให้น้ำตาไหลออกมา
หากแค่นิดเดียวถ้าไม่ได้ยินคำพูดนี้ ลูกกวางน้อยก็จะยอมปริปากยอมรับความจริงแล้ว
แต่ที่ไหนได้ชื่อของใครอีกคนกลับทำให้ร่างเล็กต้องเปลี่ยนใจ
ก้าวขาเรียวสวยเข้าไปในห้องน้ำทันที…
ปล่อยให้น้ำตาไหลรินกับคำพูดจากปากของผู้ชายที่ตนแอบรักมาตลอด
“อะ อึก ฮือๆๆ ผมจะหนีป๊าไปให้ไกลที่สุด!!!”
ปาดน้ำตาทิ้งไปก่อนจะชำระร่างกายให้สะอาดออกจากห้องน้ำสวมใส่เสื้อผ้าชุดใหม่
เลือกชุดที่ดูใหญ่กว่าตัวเพื่อปกปิดหน้าท้องที่นูนออกมา
เรียวขาสวยก้าวออกจากห้องมองไปรอบๆ ที่เคยมีคนถึงสองคนอยู่ แต่บัดนี้กลับไม่มี
มีเรียวสวยหยิบกระดาษและปากกาขึ้นมา
พร้อมทั้งเขียนข้อความลงไป…
ก่อนที่เรียวขาทั้งสองข้างจะเดินออกไปจากห้อง หยิบของใช้ที่จำเป็นพร้อมทั้งเงินติดตัวไป… ต่อให้ต้องลำบากมากแค่ไหนแต่ขอแค่ได้หนีไปให้ไกลที่สุดก็พอแล้ว!
หยาดน้ำตาไหลรินกับเรียวขาที่ก้าวเดินออกจากพื้นที่นี้… ไทเปคือบ้านเกิดแต่ถ้ายังอยู่ที่นี่ก็ไม่มีทางหนีเค้าไปได้และที่สำคัญจะกลับไปกรุงโรมยิ่งเป็นไปไม่ได้
แล้วจะไปที่ไหนละ? ที่ที่ปาร์ค ชานยอลจะตามหาไม่เจอ!!!
ปัง!
ข้าวของกระจัดกระจายเมื่อกลับมาแต่ในห้องเล็กๆ
กลับไม่มีร่างของใครอีกคนอยู่… มีเพียงกระดาษแผ่นเล็กที่มีข้อความอยู่ด้านในเท่านั้น
ไม่คิดว่าเด็กน้อยจะตื่นขึ้นมาถ้าเอะใจสักนิดคงให้จ้าวเหวยเฝ้าเอาไว้ แต่ที่ไหนได้เด็กน้อยแสนพยศกลับคิดหนี…
‘ผมขอโทษที่ทำให้ป๊าผิดหวัง…
แต่ผมจะไม่ยอมฆ่าลูกของตัวเอง
ลมหายใจที่กำลังจะเกิดมาเค้าคือทั้งชีวิตของผม ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง…
อย่าตามหาเลยเพราะผมจะหนีให้ถึงที่สุด! ป๊า…
ผมรักป๊านะครับ J’
กระดาษแผ่นเล็กถูกกำแน่นจนยับไม่เหลือสภาพดี
เรียวคิ้วสวยขมวดเข้าหากันนิ้วหน้าด้วยความรู้สึกโกรธที่เด็กน้อยกล้าขัดคำสั่งและหนีเค้าไป
“กล้าหนีไปจากฉันงั้นเหรอ?
ก็อยากรู้เหมือนกันว่าจะไปได้นานแค่ไหน…”
เสียงเข้มเอ่ยด้วยแรงโทสะมากมายแต่แววตากลับดูดุดันจนน่ากลัว
“จะให้ไปตามไหมครับ?”
“ไม่ต้อง! ในเมื่ออยากไปฉันก็จะปล่อย…
แต่ถ้าวันไหนที่ฉันเจอก็อย่าหวังว่าจะหนีได้อีก!”
จ้าวเหวยจ้องมองใบหน้าโกรธจัดของเจ้านายหนุ่ม
นึกสงสารคุณหนูตัวน้อยเหลือเกิน
ต้องโบยบินออกจากอ้อมกอดที่แสนปลอดภัยแถมไม่ได้ไปคนเดียว ในท้องยังมีลูกน้อยไปด้วย…
‘ขอให้ปลอดภัยนะครับ… คุณหนูลู่หาน’
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น